H. Hesse's "Damien"


วันนี้เพิ่งอ่านเดเมียนจบ เป็นหนังสือเล่มที่ 8 ของเฮสเสที่เราอ่าน

ความชอบอยู่ระดับกลางๆ ไปถึงล่างๆ คือชอบมากกว่าหนังสือโนเนมเล่มอื่น แต่ไม่เท่าผลงานชิ้นเอกอย่างสิทธัตถะ หรือสเตปเฟนวูล์ฟ เดเมียนบอกเล่าเรื่องราววัยหนุ่มของเอมิล ซินแคล ผู้แสวงหาสัจธรรม และวิถีการดำเนินชีวิตแบบใหม่ เดเมียนคือเพื่อนวัยเด็กของซินแคล ซึ่งโผล่เข้าออกชีวิตอีกฝ่าย และมีบทบาทในฐานะอาจารย์

ลักษณะเรื่องตรงไปตรงมาไม่มีอะไรซับซ้อน ชีวิตของซินแคลก็ไม่ได้หวือหวาอะไรมาก สัจธรรมหลายอย่างก็ดูจะผ่านเข้ามาง่ายๆ เช่นว่า สมัยเรียนหนังสือก็ได้จดหมายของเดเมียนเป็นตัวจุดประกายความคิด ต่อมาก็ได้พบกับนักออร์แกน ซึ่งกลายมาเป็นครูปรัชญาคนที่สอง ก่อนจะเจอกับอีวา มารดาของเดเมียนในตอนท้ายๆ เล่ม

ดังนั้นจุดเด่นของเรื่องนี้จึงไม่ได้อยู่ที่เหตุการณ์ แต่อยู่ที่ปรัชญามากกว่า ใครที่ชอบเรื่องราวโรแมนติก การแสวงหาของวัยรุ่น คงจะสนุกไปความคิดในเรื่อง

ส่วนตัวไม่ค่อยชอบเรื่องแนวนี้เท่าไหร่ รู้สึกว่ามันเชย ยุโรปในยุคต้นศตวรรษที่ 20 ผู้คนเริ่มสงสัยในจริยธรรม ความดีงามแบบที่โบสถ์สั่งสอน ก็เลยออกมาแสวงหาแนวทาง และปรัชญาของตัวเอง ในฐานะที่เป็นคนปลายศตวรรษที่ 20 อดถามไม่ได้ว่า "แล้วไง" ปรัชญา แนวคิด ต่างๆ นานาที่เคยเสาะแสวงหากัน ตอนนี้ไปอยู่เสียที่ไหน ส่วนตัวเราไม่คิดว่าการแสวงหา มันจะเป็นเรื่องสูงส่งไปกว่าการตั้งใจทำงาน หาเงิน เลี้ยงครอบครัว สร้างเนื้อสร้างตัวแบบคนสมัยนี้ตรงไหน

เฮสเสต่อต้านสงครามครั้งที่ 1 เขาให้เหตุผลว่าปรัชญาชาตินิยมที่นำพาหนุ่มสาวชาวเยอรมันสู่สงคราม ไม่ใช่สัจธรรมที่แท้จริง หากเป็นเพียงพฤติกรรมหมู่แบบหนึ่ง ในฐานะที่เราเป็นศิษย์กุนเดระ เราขอบอกเลยว่านั่นแหละ คือผลลัพธ์แห่งการแสวงหา ปรัชญาต่างๆ ที่คิดค้นขึ้นมา สุดท้ายก็ลงเอยที่ลัทธิชาตินิยม สงครามโลกทั้งสองครั้ง ลัทธิคอมมิวนิสต์ สงครามเย็น และความโหดร้ายต่างๆ นานา ทั้งหมดนี้ไม่ใช่เป็นผลพวง ของการหลงใหลในพลังของวัยหนุ่มสาวหรอกหรือ

แปลกที่เราไม่ได้รู้สึกต่อต้านอะไรขนาดนี้ ตอนที่อ่านสิทธัตถะ อาจเพราะปรัชญาในแบบสิทธัตถะเป็นปรัชญาอิงพุธ กึ่งเซน ซ้ำยังเป็นความรู้ที่เจ้าตัวใช้เวลาทั้งชีวิตเสาะหา ในขณะที่ทั้งซินแคล และเดเมียน ตอนจบเรื่องก็เป็นแค่คนหนุ่มอายุไม่เกิน 25 เราอดสงสัยไม่ได้ว่า คนแบบนี้จะเข้าใจโลกอะไรนักหนาเชียว

ให้เรียงลำดับหนังสือของเฮสเสตามความชอบ จากชอบมากไปน้อยได้ดังนี้

นาซิสซัส และโกลมุน

สเตปเฟนวูล์ฟ

สิทธัตถะ

คนูลป์

เกอร์ทรูด

เดเมียน

ใต้กงล้อ

รอสฮัน

ตอนนี้กำลังอ่านเบลแคนโต้ คงใช้เวลาอีกเกือบๆ อาทิตย์กว่าจะจบ ระหว่างนี้อาจอัพเดทความเห็นตัวเองเรื่องหนังสือชิงซีไรต์ปีนี้ก็แล้วกัน ถ้ามีเวลานะครับ

No comments: