D. Lessing's "The Fifth Child"


คริสมาสต์ปีนี้ พระเจ้าประทานของขวัญให้เดวิด และแฮเรียตเป็นลูกคนที่สี่ เด็กทารกชายชื่อว่าพอล ลูค เฮเลน และเจนให้การต้อนรับน้องใหม่เป็นอย่างดี ญาติๆ มาเยี่ยม และพักอาศัยในบ้านหลังใหญ่ของพวกเขา แฮเรียตซึ่งยังเหน็ดเหนื่อยกับการตั้งท้องประกาศกลางงานฉลองว่า เธอและเดวิดตัดสินใจพักสักสาม สี่ปี ก่อนจะมีลูกคนต่อไป คำประกาศนี้สร้างความโล่งใจให้กับญาติๆ ซึ่งไม่มีใครเห็นด้วยตั้งแต่แรกกับแผนการของทั้งคู่ที่จะมีลูกถึงแปดคน หรือมากกว่านั้น

แต่แล้วไม่ถึงขวบปี แฮเรียตก็ตั้งท้องลูกชายคนที่ห้า เบน

ตัวเองเป็นคนอ่านหนังสือมาเยอะ แต่สารภาพเลยว่ามีไม่กี่เล่ม อ่านแล้วจะตึงเครียด ชวนขนลุกขนพองได้เท่าเดอะฟิฟธ์ไชลด์ เบนไม่ใช่ลูกปีศาจ หรือซาตานแบบในภาพยนตร์สยองขวัญ หมอทุกคนยืนยันว่าเขาแค่เป็นเด็กที่เรียนรู้ช้าสักเล็กน้อย กระทั่งคุณครูยังอดชื่นชมความพยายามของเด็กน้อยในชั้นเรียนไม่ได้ กระนั้นสำหรับเดวิด แฮเรียต เด็กๆ และญาติๆ เบนคือสัตว์ประหลาดที่ถูกส่งมาเกิดเพื่อทำลายความสุขทุกชีวิตในบ้านโลเวต เบนอัปลักษณ์ ตาสีเหลืองซีด แข็งแรง

ตัวใหญ่เกินวัย ไม่พูดไม่จา นอกจากออกคำสั่งเป็นครั้งคราว (ประโยคแรกที่เบนพูดได้ไม่ใช่ "พ่อ" หรือ "แม่" แต่เป็น "อยากกินเค้ก") จากครอบครัวแสนสุข ทุกคนในบ้านเริ่มแตกแยก ลูค เฮเลน และเจนหนีไปอยู่กับญาติๆ ส่วนพอล เด็กทารกซึ่งถูกทอดทิ้ง เพราะแฮเรียตมัวแต่ใช้เวลา และพลังงานส่วนใหญ่ในการรับมือเบน กลายเป็นเด็กมีปัญหา เดวิดต้องทำงานตัวเป็นเกลียวเพื่อหาเงินค่าใช้จ่ายภายในบ้าน คู่สามีภรรยาทะเลาะเบาะแว้งบ่อยขึ้น

คำถามที่คนอ่านทุกคนคงอดคิดไม่ได้คือครอบครัวโลเวตทำผิดอะไร เหตุไฉนพระเจ้าถึงได้ส่งเบนลงมาเกิดในบ้านหลังนี้ ตั้งแต่เริ่มเรื่อง เราสัมผัสได้ถึงรังสีประหลาดแผ่ออกมาจากเดวิด และแฮเรียต ทั้งคู่อาศัยอยู่ในบ้านหลังใหญ่ ขนาดโรงแรมย่อมๆ และถึงญาติๆ จะคัดค้าน แต่สองสามีภรรยาตั้งใจจะมีลูกแปดถึงสิบคน ถึงจะยากเย็น มีปัญหาในบางครั้ง แต่ด้วยความช่วยเหลือของคนรอบข้าง เดวิด และแฮเรียตก็พาชีวิตครอบครัวฟันฝ่าไปได้ กระทั่งหลังจากเบนนำหายนะมาสู่บ้านโลเวต แฮเรียตถึงกับคร่ำครวญออกมา "เพราะเรามีความสุขเกินไป เพราะเราเชื่อมั่นในความสุข พระเจ้าถึงได้ลงโทษ"

ชอบตัวละครแฮเรียตมากๆ เธอเป็นคนเดียวที่ปกป้องเบน ขณะคนอื่นๆ รวมถึงเดวิดวางแผนลักพาตัวเด็กชายไปส่งในสถาบันรับเลี้ยงเด็กทารกผิดปรกติ แฮเรียตไปพาเบนกลับมา ที่น่าสนใจคือถามว่าเธอทำไปด้วยความรักรึ เปล่าเลย หญิงสาวยอมรับว่าเธอเองก็ไม่ได้รักเบน แต่ให้เหตุผลในการกระทำของตัวเองไม่ออก ตั้งแต่แฮเรียตพาเบนกลับเข้าบ้าน เธอถูกมองว่าเป็นคนผิด อาชญากรผู้ให้กำเนิดสัตว์ประหลาด และผู้หญิงเห็นแก่ตัว นำความพินาศมาสู่ครอบครัว ฉากที่ชอบที่สุดคือเมื่อจิตแพทย์ตรวจอาการเด็กชาย สรุปเป็นเสียงเดียวกันว่า เบนไม่ได้ผิดปรกติตรงไหน แต่แฮเรียตต่างหากที่ดูแลลูกชายไม่ดี หญิงสาวถึงกับกรีดร้องออกมาอย่างคับแค้น

ไม่ว่าจะในวัฒนธรรมตะวันตก หรือตะวันออก ต่างก็ให้ความสำคัญกับสถาบันครอบครัว ซึ่งถือเป็นสถาบันพื้นฐาน และน่าไว้วางใจที่สุด แต่ในเดอะฟิฟธ์ไชลด์ เลสซิ่งเสียดสี แสดงภาพครอบครัวซึ่งอ่อนไหวยวบยาบเพราะปราศจากความรัก ในความเป็นจริงอะไรเล่าจะยืนยันได้ว่าพ่อแม่ทุกคนต้องรักลูก อะไรจะบังคับให้ลูกๆ ทุกคนที่เกิดมาต้องรักพ่อแม่ ถ้าพี่น้องเกลียดกันเอง เราจะทำเช่นไร ถ้าขาดความรักเสีย ทุกอย่างพังทลาย ขณะเดียวกัน ความรักก็เป็นของไม่แน่นอนที่สุดในโลก

อ่านจบแล้วก็ยังตอบไม่ได้อยู่ดีว่า ถ้าแฮเรียตปล่อยให้เบนตายในสถานรับเลี้ยงเด็ก แล้วหันมาทุ่มเทกำลังพยุงชีวิตสามี และลูกๆ อีกสี่คน นั่นจะถือเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องกว่านี้ไหม

No comments: