ทุกอย่างเป็นเรื่องส่วนตัว


ไมเคิล คอลิโอเนประกาศกร้าวใน The Godfather ว่า “ทุกอย่างเป็นเรื่องส่วนตัว” ขณะที่พวกมาเฟียอิตาลีจะมีคำพูดติดปากคือ “นี่คือธุรกิจ ไม่ใช่เรื่องส่วนตัว” ดังนั้นถ้าจะรุนแรงไปบ้าง ก็อย่าถือโทษโกรธกัน ไมเคิล ซึ่งเป็นไก่อ่อนในวงการ หลังรับภารกิจล่าสังหารชิ้นแรก เพื่อแก้แค้นให้พ่อ และปกป้องวงศ์ตระกูล โต้พี่ชายว่า “ทุกอย่างเป็นเรื่องส่วนตัว”

ใช่ครับ สุดท้ายมันก็เรื่องส่วนตัวจริงๆ นั่นแหละ

ในที่สุดเราก็รู้แล้วว่า ประสานงา คือใคร (หมายเหตุ: นี่คือนามแปลงของนามแฝงคอลัมนิสต์คนหนึ่ง) หลัง (แส่หาเรื่อง/จำใจ) ติดตามบทความของหมอมานาน ประสานงาสนับสนุนรัฐประหาร เสนอแนวคิดการเมืองประเภท ให้ผู้คนเลิกยึดติดระบบ แล้วหันมองตัวบุคคล กล่าวคือถ้าได้คนดีมาเสียอย่าง วิธีการจะเฮงซวยขนาดไหนก็มองๆ ข้ามมันไปเสีย

ขี้เกียจเถียงกับความคิดนี้ เอาเป็นว่าหลังจากสืบๆ ถามๆ คนในแวดวง เราก็รู้แล้วว่าประสานงาคือใคร แทบจะหัวเราะออกมาเลย สุดท้ายก็อีกหนึ่งโจทก์เก่าคุณทักษิณ โดยทางสถานภาพแทบไม่ต่างจาก “นักโฆษณาชวนเชื่อ” (แต่ไม่น่าเกลียดเท่า เพราะอย่างน้อยประสานงาก็ไม่เคยแสดงท่าทีกลับหลังหันร้อยแปดสิบองศา)

พอรู้แบบนี้ก็ “เห็นใจ” และ “เข้าใจ” ประสานงาขึ้น อยากที่ไมเคิลบอกนั่นแหละสุดท้าย “ทุกอย่างคือเรื่องส่วนตัว” จะโกรธจะเกลียดใคร ไม่ว่า จะเขียนบทความตีโต้อย่างไรก็เป็นสิทธิของเขา แต่อย่างน้อยด้วยจรรยาบรรณสื่อ เพลาๆ มือบ้าง อย่าให้มันเลยเถิดจนกลายเป็นผลเสียต่อค่านิยม และจิตสำนึกคนในชาติก็แล้วกัน

No comments: