G.K. Chesterton's "The Man Who Was Thursday"


"Bad is so bad that we cannot but think good an accident; good is so good that we feel certain that evil could be explained."

G.K. Chesterton

ประโยคข้างบนคือหัวใจของ The Man Who Was Thursday นิยายบางเล่ม อ่านจบแล้วเรารู้สึกว่ามันดีมากๆ ส่วนนิยายบางเล่ม พูดได้คำเดียวว่า "มหัศจรรย์" The Man Who Was Thursday คือตัวอย่างหลัง ในแง่ genre มันเป็นได้ทุกอย่างตั้งแต่นิยายนักสืบ นัวร์ เสียดสีการเมือง ตลกโปกฮา สัจนิยมมายา ปรัชญาวิเคราะห์ ยาสมานบาดแผลทางจิตใจของเหล่าผู้โศกเศร้าโศกาในโลกอนาธิปไตย

ซิม นายตำรวจปลอมตัวเข้าไปในองค์กรก่อการร้าย และได้รับเลือกเป็นผู้บริหารระดับสูงมีฉายาว่า "วันพฤหัส" ในหมู่ผู้บริหารทั้งเจ็ด มีชื่อเรียกตามวัน ตั้งแต่จันทร์ ถึงเสาร์ และ "วันอาทิตย์" คือหัวหน้าองค์กร บุรุษลึกลับผู้เป็นทั้งพระเจ้า และปีศาจในคราเดียว

ถึงเรื่องย่อจะฟังเหมือนนิยายนักสืบ แต่สิ่งที่เชสเตอตันต้องการนำเสนอ ห่างไกลจากนิยายแนวนั้นหลายขุม ตั้งแต่มุกตลกฮากลิื้งสอดแทรกเป็นระยะ จนถึงช่วงท้ายๆ ที่นิยายถูกพลิกกลับหัวเป็นหาง หรือถ้ายกคำพูดของซิม ทุกอย่างมันกลับหัวเป็นหางมาตั้งแต่ต้น นี่ต่างหาก การที่โลกเอียงๆ นั้นถูกจับตั้งตรงเป็นครั้งแรก

เราไม่แปลกใจเลย ถ้าใครอ่าน The Man Who Was Thursday แล้วรู้สึกต่อต้านมันมากๆ ท้ายสุดนี่คือนิยายซึ่งกระโดดข้าม genre ไปมา ถ้าได้มีโอกาสอ่านมันจริงๆ คำแนะนำคืออย่าไปคิดถึง The Big Sleep, The Maltese Falcon นิยายนัวร์เล่มอื่นๆ หรือนิยายสายลับ สุดเลิศอย่างเจมส์ บอนด์ นิยายที่ The Man Who Was Thursday ใกล้เคียงมากที่สุดกลับเป็น The Little Prince

2 comments:

Anonymous said...
This comment has been removed by a blog administrator.
teytheigh said...

d5k70b9w31 u0z70h2v46 g4b66v1s42 a2u33x2e21 i1e47i5g90 r6s33v0e68