I. Calvino's "Cosmicomics"


เคยอ่านหนังสือดีๆ มาเยอะ แต่จะมีสักกี่เล่มที่อ่านจบแล้วอยากอุทานว่า "มันคิดได้ยังไงวะ" "การ์ตูนจักรวาล" ของคาลวิโนคือหนังสือประเภทนั้น เป็นรวมเรื่องสั้นที่เหมือนเอาตำราฟิสิกส์ ปรัชญา บทกวี และเรื่องขำขันมายัดลงเครื่องปั่น เปิดสวิตซ์ไฟ ออกมาเป็นส่วนผสมซึ่งลงตัวอย่างน่าประหลาด

คิดอยู่นานว่าจะเรียกหนังสือเล่มนี้ว่าเรื่องสั้นวิทยาศาสตร์ดีหรือเปล่า ในหลายแง่ "การ์ตูนจักรวาล" ไม่เหมือนเรื่องสั้นวิทยาศาสตร์ทั่วไป ถามว่าต่างอย่างไร นิยายวิทยาศาสตร์ส่วนใหญ่ อ่านแล้วรู้สึกเหมือนคนเขียนต่อสู้กับกฏฟิสิกส์ เอาเทคโนโลยีเหลือเชื่อมาสร้างสรรค์เหตุการณ์เ็ป็นไปไม่ได้ ขณะที่ใน "การ์ตูนจักรวาล" คาลวิโนหยอกล้อเล่นหัวกับสมการฟิสิกส์ เปิดปิดกฏข้อนู้นข้อนี้ และแปลงวิทยาศาสตร์ให้กลายเป็นบทกวีได้อย่างงดงาม

ดูอย่างเรื่องแรกปะไร "ระยะทางไปดวงจันทร์" เล่าถึงอดีตกาลครั้งสมัยดวงจันทร์เข้าใกล้โลกมากกว่านี้ เกิดบริเวณที่แรงดึงดูดหักล้างกัน มัจฉา เต่า ปูว่ายแหวกท้องนภา ชนเผ่าหนึ่งพายเรือขึ้นฟ้า กระโดดกลับหัวเกาะดวงจันทร์ เพื่อไปคั้น "นมเพ็ญ" ซึ่งเกิดจากการหมักหมมของสัตว์ทะเลที่ไปติดบนพื้นผิวดาวเคราะห์

ตัวเอกแทบทุกเรื่องใน "การ์ตูนจักรวาล" ชื่อ "คฟวฟค" ซึ่งบางครั้งก็เป็นมนุษย์ประหลาด บางครั้งก็เป็นอะตอม ไดโนเสาร์ สิ่งมีชีวิตไร้รูปร่าง หอยสังข์ หรือกระทั่งพระเจ้าก็ยังมี อย่างตอนหนึ่ง คฟวฟคเอาอะตอมมาดีดแทนลูกหิน ก่อนจะขี่ดาราจักรเล่นไล่จับกับศัตรูคู่แค้น "พฟวฟพ" อีกเรื่องคฟวฟคและ "ครูใหญ่" จับเหตุการณ์ต่างๆ ตั้งแต่กำเนิดจักรวาล การเกิดของไฮโดรเจน จนถึงนาง ก บ้านเลขที่นี้ วันนั้น จะก้าวออกจากบ้านด้วยเท้าซ้าย หรือเท้าขวา คาลวิโนคงได้ไอเดียมาจาก "พระเจ้าเล่นลูกเต๋า" ของไอนสไตน์ (นี่คือประโยคเด็ดซึ่งนักวิทยาศาสตร์ผู้โด่งดังใช้เหน็บแนมฟิสิกส์ควอนตัม)

เราเคยกล่าวถึงความเกี่ยวข้องระหว่างปรัชญาตัวตน (existentialism) และฟิสิกส์ควอนตัมมาแล้ว แต่เพิ่งเคยอ่านนิยายที่ผู้เขียนเข้าใจวิทยาศาสตร์อย่างลึกซึ้งขนาดนี้เป็นครั้งแรก ตัวอย่าง เรื่องสั้น "สัญลักษณ์" เล่าถึงการที่คฟวฟค ซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิตทรงอำนาจ ไร้ตัวตน สร้างสัญลักษณ์ขึ้นมาบนความเวิ้งว้าง ต่อมาสัญลักษณ์นั้นกลายเป็นความหมายแห่งชีวิตเขา ตรงนี้เหมือนหลักพื้นฐานวิทยาศาสตร์ที่ว่า การวัด หรือการประเมินค่าต้องอาศัยตัวเปรียบเทียบ จะตีความด้วยปรัชญาเดสการ์ดก็ได้ว่า "ฉันคิด ฉันจึงเป็น" สัญลักษณ์ของคฟวฟคช่วยให้เขาระลึกตัวตนขึ้นมา กลายเป็นว่าเขาถูกสร้างโดยสิ่งที่เขาสร้างขึ้นมาเองกับมือ

ความสวยงามของ "การ์ตูนอวกาศ" คือการที่ผู้เขียนเอาแก่นง่ายๆ ใส่ลงเนื้อเรื่องซับซ้อน อย่าง "ไดโนเสาร์" เล่าถึงคฟวฟคไดโนเสาร์ตัวสุดท้าย มีชีวิตอยู่ท่ามกลางสิ่งมีชีวิตยุคใหม่ โดยผิวเผินเหมือนจะเป็นเรื่องสั้นหลุดโลก แต่ถ้าอ่านดีๆ จะพบว่านี่คือโศกนาฏกรรมของคนนอก ที่ไม่ว่าใครในสังคมก็สามารถทำความเข้าใจได้ "ปีแสง" เล่าถึงคฟวฟค คนหลงตัวเอง ที่คอยสนใจอยู่ตลอดเวลาว่าผู้อยู่อาศัยบนดาวซึ่งห่างไกลห้าร้อยล้านปีแสงจะคิดอย่างไรกับสิ่งที่ตัวเองทำในอดีตเมื่อห้าร้อยล้านปีก่อน เป็นเรื่องเสียดสีที่ชวนให้นึกถึงวัฒนธรรมไซเบอร์ยิ่งนัก

บางเรื่องนอกจากลึกซึ้ง แล้วยังชวนหัวชวนฮา "ปู่อยู่ในน้ำ" คฟวฟค สัตว์เลื้อยคลานมีบรรพบุรุษเป็นปลาหัวแข็ง เรื่องสนุกเกิดขึ้นเมื่อคฟวฟค เอาคู่หมั้นที่เป็นสัตว์บกมาเยี่ยมญาติผู้ใหญ่ ใน "ที่ไหนก็อยู่ที่นี้" คฟวฟคเล่าเหตุการณ์สมัยเอกภพยังเป็นแค่จุดหนึ่งเดียว ก่อนจักรวาลแตกตัวด้วยการระเบิดครั้งใหญ่ ทุกสิ่งทุกอย่างเบียดเสียดแน่นเอี๊ยดอยู่ในรูแคบๆ คาลวิโนบรรยายสภาพเอกภพยังกะหอพักกระยาจก แคบจนไม่ว่าเดินเหินไปไหน ก็อดเหยียบเท้ากันไม่ได้ แถมยังเต็มไปด้วยเรื่องน้ำเน่าระหว่างเพื่อนบ้าน

ปิดท้ายด้วย tag 2 อาชีพที่แท้จริงของผมเป็นนักวิทยาศาสตร์ครับ และในฐานะนักวิทยาศาสตร์ ขอโฆษณาเลยว่า "การ์ตูนจักรวาล" คือรวมเรื่องสั้นวิทยาศาสตร์ที่ดีที่สุดเท่าที่เคยอ่านครับ

3 comments:

wheeru said...

more helpful hints Dolabuy Celine official website my blog Click This Link click this over here now

Anonymous said...

learn this here now replica dolabuy image source dolabuy ysl useful reference high end replica bags

Anonymous said...

replica nappy bags click this v5m86b2b42 replica bags sydney replica bags in uk gucci replica handbags b2s32l2w30 replica bags from china important site r5b36u5n74 replica ysl replica bags us