A. Carter's "Love"
Love เป็นนิยายสั้นๆ ที่อ่านแล้วเหนื่อยมาก ซึ่งอาจตรงตามเป้าประสงค์ของผู้เขียนก็ได้ คาร์เตอร์กล่าวในบทส่งท้าย (ซึ่งถูกเขียนขึ้น เกือบยี่สิบปี ภายหลังนิยายถูกตีพิมพ์ครั้งแรก) ว่าหล่อนใช้บรรยากาศของอังกฤษในยุค 60s นำมาสร้างเป็นนิยายแห่งความทุกข์ตรม เรื่องของผู้หญิงสติไม่ดีที่ถูกสามี และน้องเขยกดดัน บีบบังคับจนหล่อนฆ่าตัวตาย โดยที่ฝ่ายชายทั้งจงใจ ทั้งไม่จงใจ และบางครั้งก็ทำไปด้วยความหวังดี
บทส่งท้ายอาจเป็นส่วนที่น่าสนใจสุดของเล่มก็ได้ คาเตอร์วิเคราะห์เพิ่มเติมว่าเหตุการณ์ใน Love เกิดในโลกซึ่ง "สิทธิสตรี" ยังไม่แพร่หลาย หากมองนิยายเล่มนี้ด้วยสายตาของคนในอีกยี่สิบปีถัดมา อะไรๆ จะชัดเจน และง่ายดายขึ้นเยอะ ลี สามีของแอนนาเบล แท้ที่จริงก็คือผู้ชายเลวๆ แบบที่นักสิทธิสตรีต่อต้านมาทุกยุคทุกสมัย คาร์เตอร์ในปี 69 ตอนที่เขียน Love ยังเห็นใจลีอยู่กลายๆ แต่คาร์เตอร์ในอีกยี่สิบปีให้หลัง ไม่หลงเหลือความเห็นใจใดๆ ให้กับตัวละครตัวนี้แล้ว
ในบทส่งท้าย คาร์เตอร์เล่าว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างกับเหล่าตัวละครหลังนิยายจบ หล่อนต้องฝืนตัวเองอย่างมากไม่ให้คืนชีพแอนนาเบลขึ้นมา ตอนจบของ Love สวยงามในแบบที่มันควรจะเป็น และหล่อนไม่ต้องการทำลายความสวยงามนั้น อย่างไรก็ดี คาร์เตอร์ได้สร้างตัวละครใหม่ตัวหนึ่ง โรซีเป็นภรรยาคนที่สองของลี เช่นเดียวกับที่บทส่งท้ายกลายเป็นส่วนที่น่าสนใจสุดโดยไม่ได้ตั้งใจ โรซีก็เป็นตัวที่กุมใจเราสุดเช่นกัน (ทั้งที่เธอโผล่มาแค่สามสี่หน้า)
โรซีเป็นกึ่งกลางระหว่างนักบำบัดอาชญากร และนักต่อสู้เพื่อสิทธิสตรี ภายหลังการตายของแอนนาเบล ลีลงโทษตัวเองด้วยยาเสพติด สภาพอันน่าสมเพชของชายหนุ่มดึงดูดโรซี โรซีต้องการช่วยเหลือลีในทีแรก แต่ภายหลังจากแต่งงาน อยู่กินกัน จนมีลูกสาว โรซีถึงตระหนักในตัวตนที่แท้จริงของสามี ว่าเป็นผู้ชายซึ่งชอบเอารัดเอาเปรียบเพศตรงข้าม และกดดันภรรยาคนแรกจนหล่อนต้องฆ่าตัวตาย ตั้งแต่นั้นทั้งคู่มีปากเสียงกันแทบทุกวัน เพื่อให้ Love "จบดี" โรซี ในแง่หนึ่งคือตัวละครที่ถูกสร้างขึ้นมา (อย่างลวกๆ ด้วยซ้ำ) เพื่อลงโทษลีโดยเฉพาะ
ในความเป็นนิยายฮิปปี้ของมัน Love ก็ดีในแบบที่มันดีแล้วล่ะ แต่ถ้าขาดบทส่งท้ายไปเสีย สำหรับเรา หนังสือเล่มนี้คงจืดลงไปเยอะ
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
No comments:
Post a Comment