M. Foucault's "The Use of Pleasure"

"that in his adolescence he drew away the husbands from their wives, and as a young man the wives from their husbands"
The Use of Pleasure เป็นหนังสือเล่มสองของฟูโกต์ ในชุด The History of Sexuality ซึ่งเล่มหนึ่งได้อ่าน และพูดถึงไปแล้ว เมื่อประมาณปีก่อน (ไม่น่าเชื่อว่ารอบปีหนึ่งที่ผ่านมา อ่านหนังสือฟูโกต์แค่เล่มเดียวเอง นี่เรามัวไปทำอะไรอยู่) ในเล่มสองนี้ ฟูโกต์ยังรักษาความเป็นนักปรัชญาเชิงประวัติศาสตร์ไว้อย่างน่าชื่นชม ต่อให้คนคนหนึ่งมีเครื่องย้อนเวลา เดินทางกลับไปสมัยกรีก แล้วถ่ายรูปกลับมาสองสามอัลบั้ม ก็คงเขียนถึงช่วงเวลานั้นได้ไม่ลึกซึ้งเท่าฟูโกต์ อ่านจบแล้ว รู้สึกประหนึ่งผู้เขียนคงย้อนเวลาไปมีเพศสัมพันธ์กับเด็กหนุ่มชาวกรีกสักเจ็ดแปดคน ถึงเขียนหนังสือเล่มนี้ออกมาได้

ธีมหลักๆ ซึ่งถูกเล่นซ้ำไปซ้ำมาในแต่ละบทคือ 1) วัฒนธรรมกรีกโบราณไม่ได้เปิดกว้างเรื่องเพศ เหมือนที่เราเชื่อๆ กัน ฟูโกต์ยกตัวอย่าง ข้อห้าม ผลเสีย หรือบทลงโทษสำหรับผู้ละเมิดบรรทัดฐานทางเพศ แต่ 2) ขณะเดียวกัน ถ้าจะบอกว่าชาวกรีกมองเรื่องเพศเหมือนที่พวกคริสเตียนมอง ก็ไม่ใช่อีกนั่นแหละ ฟูโกต์ตั้งใจนิยามขนบแนวคิดเรื่องเพศของชาวกรีก โดยเขายกตัวอย่างร้อยแปดจากวรรณกรรม ข้อเขียน และบันทึก ไม่ใช่เพียงเพื่อให้เรารู้ว่าชาวกรีกมีหลักปฏิบัติทางเพศอย่างไร แต่เพื่อพาเราเข้าไปถึงข้างในความคิดของอริสโตเติล เพลโต โซเครติส เซโนโฟน รวมไปถึงนักปรัชญาชื่อดังคนอื่นๆ

เงื่อนไขทางเพศของชาวกรีกไม่ใช่ "อย่างไร" หรือ "กับใคร" แต่เป็น "แค่ไหน" กล่าวคือการมีเพศสัมพันธ์กับเด็กหนุ่มไม่ถือเป็นสิ่งผิด แต่ความบ่อย และปริมาณต่างหากที่เป็นข้อถกเถียง คนที่ควบคุมกามตัณหาของตัวเองไม่ได้ (ไม่ว่าจะกับผู้ชาย ผู้หญิง หรือลูกเมีย และผัวชาวบ้านก็ตาม) เท่ากับขาดความสามารถในการควบคุมตัวเอง ซึ่งในสายตาของนักปรัชญา ถือเป็นความเลวร้าย เพราะมันจะส่งผลไปยังสุขภาพ เศรษฐศาสตร์ในครัวเรือน และการเมืองการปกครองด้วย

ถ้าให้เราสรุป The Use of Pleasure ด้วยประโยคเดียว หากเทียบกับหลักคริสเตียน คุณธรรมสูงสุดในเรื่องเพศของชาวคริสเตียนคือ "ความบริสุทธิ์" ซึ่งก็คือไม่มีเพศสัมพันธ์เลย เว้นแต่เพื่อสืบพันธุ์ แต่ตามหลักกรีก คุณธรรมสูงสุดในเรื่องเพศคือ "ความพอดี" ไม่มาก หรือน้อยเกินไป และความสามารถในการ "ควบคุมตัวเอง"

ฟูโกต์พูดถึงประเด็นอีกมากมาย เช่นบทบาททางเพศอันเหมาะสมระหว่างเด็กหนุ่ม และชายสูงวัย ถ้ามองว่า The History of Sexuality เป็นผลงานที่โด่งดังสุดของฟูโกต์แล้ว อยากแนะนำหนังสือเล่มนี้ เพราะมันค่อนข้างอ่านง่าย ต่อให้ใครที่ไม่มีพื้นฐานการอ่านหนังสือปรัชญา หรือผลงานของฟูโกต์มาก่อน ก็น่าจะเริ่มต้นจากเล่มนี้ได้ไม่ลำบากนัก

No comments: