โลกในดวงตาข้าพเจ้า (มนตรี ศรียงค์)


ถ้าให้จำกัดความความรู้สึกเราที่มีต่อ โลกในดวงตาข้าพเจ้า คงไม่ถึงกับชอบเสียทีเดียว ใกล้เคียงกับคำว่า "น่าเอ็นดู" มากกว่า รู้สึกแปลกๆ ที่จะเรียกผลงานชิ้นนี้ว่า "น่าเอ็นดู" อย่างแรกก็คือมันไม่ใช่บทกวีสำหรับเด็ก และตัวผู้เขียนก็อายุมากกว่าเราเกือบรอบกว่า แต่ก็คิดคำอื่นไม่ออกจริงๆ

ผลงานชิงซีไรต์ของคุณมนตรีเล่มนี้เต็มไปด้วย "ความก้ำกึ่งอันน่าเอ็นดู" ความก้ำกึ่งในที่นี้เริ่มตั้งแต่กลวิธีนำเสนอ อยู่ตรงกลางระหว่างฉันทลักษณ์ และกลอนเปล่า ซึ่งเราชอบ ชอบที่มันอ่านง่าย อะไรที่คุณมนตรีต้องการบอกผู้อ่าน แกสื่อสารตรงไปตรงมา ไม่ต้องมาดัดแปลงวลี คำ ภาษาให้เข้ากรอบ และไปๆ มาๆ กลับกลายเป็นว่าสัมผัสสระ พยัญชนะถูกขับให้โดดเด่นขึ้น เพราะมันมาแบบเหนือคาดคิด ยกตัวอย่าง "ดูเหมือนว่า / ดวงตาอ้างว้างเราว่างเปล่า / เสียงผิวปากเรียกนกให้ผกเงา / ส่อชัดความเศร้าของเงาตา" เป็นกลอนอ่านแล้วสะดุดกึกกัก ชวนให้สนุกสนานไปอีกแบบ ถ้าพูดถึงเฉพาะฉันทลักษณ์ บทที่เราชอบสุดคือ มะลิลา ส่วนที่สอง คุณมนตรีใช้คำซ้ำขับจุดเด่นท่วงจังหวะ ทำนองกลอนได้อย่างดี

ความก้ำกึ่งอีกประการคือในเชิงความคิด ปรัชญา หลายบทกลอนของ โลกในดวงตาข้าพเจ้า เกิดจากการที่คุณมนตรีเฝ้าสังเกตสิ่งแวดล้อม ปลุกปล้ำความรู้สึกตัวเองบนหน้ากระดาษ จนเกิดเป็นความคิดอ่านบางประการ ซึ่งแม้ไม่ได้หลักแหลม แต่ก็กระตุ้นเตือนให้ผู้อ่านสนุกคิดไปกับแก ตรงนี้เป็นเส้นบางๆ เลย เพราะถ้าผู้เขียนปลี่ยน "ความคิดอ่านบางประการ" ให้กลายเป็น "ข้อสรุป" เราจะมองกลอนด้วยสายตาติดลบขึ้นมาทันที ชายคนรักของช่างเสริมสวย คือตัวอย่างที่ดีของสารแบบเปิดกว้าง

ที่มันน่าเอ็นดู เพราะบางครั้งก็เหมือนคุณมนตรีหยอกล้อตัวเอง และผู้อ่าน อย่างกลอนชุดคาวบอย ซึ่งเป็นซีรีติดกันกันสี่ห้าบท อะไรจะขนาดนั้นกับตัวละครตัวเล็กๆ ตัวหนึ่งในสังคมเมือง หรือ เงาสะท้อนบนประตูกระจก ที่อดขำไม่ได้ว่า จะเกินไปหน่อยแล้ว กะอีแค่เห็นเงาตัวเองนี่นะ แต่เพราะความทีเล่นทีจริงของมัน ทำให้รู้สึกเอ็นดู แทนที่จะต่อต้าน อย่าง นิพพานในร้านหมี่เป็ดศิริวัฒน์ ก็จบได้ผ่างถึงใจว่า "วันเป็นวันเดือนเป็นเดือนปีเป็นปี / คนขายหมี่จะไปนิพพานแล้ว!"

13 comments:

Anonymous said...

อะไรกันนี่

ก่อนหน้านี้ไม่ค่อยมีจินตนาการกับบทกวีเลยค่ะ ซีร้งซีไรต์ก็ไม่ค่อยสนใจกะเขา ซีไรต์บางปีโดยเฉพาะที่ว่าด้วยกวีนิพนธ์นี่แทบจะเป้นประตูที่ปิดตายสำหรับตัวเองเลย (ไม่เก็ตเป็นอย่างยิ่งกับปีของเรวัตร)
แต่บล็อกนี้กระตุ้นต่อมนึกสนุกได้มากจริง
ต้องออกไปหาอ่านบ้างแล้ว แต่เห็นท่าจะไม่ได้อารมณ์น่าเอ็นดูอย่างคุณว่า

ได้ผลอย่างไรจะกลับมาคุยด้วยค่ะ

ดอกแก้ว

ปล. จากประสบการณ์เก่า คุณมนตรี ศรียงค์เขียนกลอยออกแนวเชยๆ คือสอน แต่เราว่าเป็นความเชยที่ดูดีท่ามกลางกวีนิพนธ์ในช่วง ๑๐ ปีนี้นะคะ

laughable-loves said...

ดีใจครับ ถ้าสามารถกระตุ้นให้คนอยากอ่านหนังสือขึ้นมาได้

Anonymous said...

ขอบคุณครับที่กรุณาวิจารณ์งานของผม

ด้วยความชื่นชม

มนตรี ศรียงค์

laughable-loves said...

อุ๊ย! สวัสดีครับคุณมนตรี

ตื่นเต้นเล็กน้อย จนต้องกลับไปอ่านที่ตัวเองเขียนอีกรอบ ไม่รู้บางจุดพูดแรงไปหรือเปล่า แต่ถ้าถามตอนนี้ ผมชอบเล่มของคุณมนตรีสุดนะครับ (กำลังจะเขียนถึง เก็บความเศร้าฯ ของคุณศิริวรอยู่พอดี) บางครั้งความเห็นที่เกิดขึ้นหลังอ่านจบ ก็ให้เครดิตอะไรกับมันไม่ได้ หนังสือบางเล่ม ต้องให้ผ่านมาสักอาทิตย์ก่อน ความคิดถึงจะเริ่มตกตะกอน แล้วรู้สึกประทับใจ ชื่นชมมันจริงๆ โลกในดวงตาข้าพเจ้า ก็เป็นหนังสืออย่างที่ว่านี้แหละครับ

ผมคิดว่าสิ่งที่ตัวเองเขียนไม่ใช่วิจารณ์หรอกครับ เหมือนบันทึกการอ่านหนังสือมากกว่า โดยเฉพาะเรื่องกลอน เพราะยอมรับว่ารู้น้อยมากๆ จะให้วิจงวิจารณ์อะไรก็คงลำบาก ได้แต่เล่าให้ตัวเอง (ในวันหลัง) และคนอื่นฟัง เผื่อจะกระตุ้นให้คนไทยสนุกนึก อยากอ่านหนังสือมากขึ้น

Anonymous said...

ผมขออนุญาตเอาไปลงที่เวบผมได้ไหมครับ?

โดยใส่ลิงค์กระทู้นี้ให้ด้วย

แต่ผมใส่ลิงค์เวบให้เป็นเวบเพื่อนบ้านผมไม่เป็น ต้องขออภัย


ผมแนะนำหลายคนแล้วครับให้มาอ่านที่บล็อกนี้


จะรอคำตอบว่าอนุญาตหรือไม่ก่อนนะครับ

ถ้าไม่ได้ก็ไม่เป็นไรครับ

ขอบคุณครับ

มนตรี ศรียงค์

laughable-loves said...

เอาไปลงได้เลยครับ จะรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง

ขอทราบเวปคุณมนตรีด้วยครับ จะได้แวะเวียนไปเยี่ยมเยียนกัน

Anonymous said...

ลิงค์นี้อยู่ที่นี่ครับ

[url]http://www.softganz.com/meeped/index.php?file=story&obj=forum(1650,updateview=no/url]

ส่วนนี่เป็นหน้าแรกครับ

[url]http://www.softganz.com/meeped/index.php[/url]


ยินดีต้อนรับครับ


หมี่เป็ด ผู้ชายนัยน์ตาสีสนิมเหล็ก

Anonymous said...

ลองลิงค์ดูอีกทีนะครับ

http://www.softganz.com/meeped/index.php

http://www.softganz.com/meeped/index.php?&obj=forum(1650)

laughable-loves said...

ขอแสดงความยินดีกับคุณมนตรีด้วยครับ ปีนี้ซีไรต์เชียร์ขึ้นแฮะ ตาถึงเหมือนกันเรา

ลำไพล รำพึง said...

ดีใจด้วยค่ะ..และดีใจกับตัวเองด้วย
ได้อ่านหนังสือ ดีๆของคนบ้านเดียวกัน
รู้จักชื่อ คุณมนตรีตั้งแต่ อ่าน ควนป่านาเล
ของพี่ จู พเนจร ฉบับยกขนำค่ะ
ทำไห้วงการหนังสือ บ้านเราสนุกขึ้นมาเลยค่ะ

Anonymous said...

เป็นหนังสือที่ดีมากค่ะ ตอนที่อยากซื้อก็เพราะว่าชอบชื่อหนังสือ แต่พอได้เปิดอ่านยิ่งต้องซื่อค่ะ เลยได้ฉบับที่ตีพิมพ์ครั้งแรก ดีใจมากค่ะ เป็นหนังสือที่ดีมากค่ะ
คุณธิดารัตน์

สุภาพ-สตรี said...

ดีใจที่ได้อ่านงานดีดีนะคะ บางตอนรู้สึกว่าเศร้าจัง
ให้ความหมายและบอกถึงความจริงที่เป็นไปได้ชัดเจนดีค่ะ เป็นกำลังใจให้คุณ มนตรี ต่อๆไปนะคะ

saim said...

I have read a few of the articles on your website now, and I really like your style of blogging. I added it to my favorites blog site list and will be checking back soon. Please check out my site as well and let me know what you think.


natural minerals
best naturals
buy curcumin