I. Bergman's "The Reduction Trilogy"


หมายเหตุ: จริงๆ แล้วหนังสือเล่มนี้ชื่อโง่ๆ ว่า Three Films แต่เรารับไม่ได้ ก็เลยขอเอา "ฉายา" ของมันมาเรียกแทนก็แล้วกัน

มีความเชื่ออยู่ชนิดหนึ่งคือ อไญยนิยม ซึ่งอยู่ตรงกลางระหว่าง เทวนิยม (ความเชื่อในพระเจ้า) และ อเทวนิยม (ความไม่เชื่อในพระเจ้า) โดยนักอไญยนิยมไม่ได้บอกว่าพระเจ้าไม่มีจริง แต่เขาเชื่อว่ามนุษย์เราไม่อาจสัมผัส หรือรับรู้ตัวตนของพระองค์ได้ และความพยายามใดๆ ก็ตามที่จะสัมผัสพระเจ้าย่อมนำมาซึ่งหายนะ อไญยนิยมแปลมาจากศัพท์ภาษาอังกฤษว่า agonism ซึ่งถ้าเราเข้าใจถูกนี่คือสิ่งที่เบิร์กแมนเรียกว่า "reduction" (การลดทอน) นั่นเอง

ไตรภาคการลดทอนนี้ประกอบด้วยหนังสามเรื่อง Through a Glass Darkly, Winter Light แล้วก็ The Silence ทั้งสามเรื่องนี้วนเวียนอยู่กับแนวคิดของการลดทอน ซึ่งชัดเจนมากในเรื่องแรก คารินเป็นผู้หญิงสติไม่ดีผู้เชื่อว่าตัวเองสามารถติดต่อกับพระเจ้าได้ และสุดท้ายพระเจ้าก็มีปรากฎให้เธอเห็นจริงๆ ในรูปแบบที่น่าสยดสยอง เรื่องที่สองว่าด้วยโทมัส นักบวชซึ่งสูญเสียศรัทธา และพยายามทำทุกวิถีทาง เพื่อจะเรียกมันกลับคืนมา ส่วนเรื่องสุดท้ายพูดถึงความสัมผัสระหว่างแอนนา และเอสธา สองศรีพี่น้อง เอสธาป่วยหนักและกำลังจะตาย ส่วนแอนนาไม่สามารถควบคุมตัณหาของตัวเองได้

การอ่านหนังสือเล่มนี้ ถือเป็นประสบการณ์ที่น่าสนใจ เพราะแม้เราจะชอบหนังของเบิร์กแมน แต่ก็ไม่เคยได้ดูสักเรื่องเดียวในไตรภาคการลดทอนนี้ ดังนั้นก็เลยได้แต่จินตนาการเอาว่าฉบับหนังจะเป็นเช่นไร แม้จะอยู่ในไตรภาคเดียวกัน แต่ทั้งสามบทแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง เราชอบ Through a Glass Darkly ที่สุด มันมีความสมบูรณ์แบบในแง่ของบทละครเวทีที่สุดด้วย เน้นการเล่าเรื่องด้วยบทสนทนามากกว่าภาพ ใช้ฉากน้อย อยู่ในพื้นที่จำกัด เชื่อว่าถ้าดูเป็นหนังก็คงชอบมากๆ เหมือนที่เราชอบ Cries and Whispers ด้วยฝีมือพระกาฬระดับเบิร์กแมนคงสร้างบรรยากาศ และกำกับการแสดงได้อยู่หมัดอยู่มือ The Silence แตกต่างจากอีกสองเรื่องตรงที่มันเน้นภาพ มากกว่าคำพูด เบิร์กแมนบรรยายกิจกรรมของตัวละครเป็นส่วนใหญ่ ตัวอย่างบทลักษณะนี้คงมีแต่ผู้กำกับเท่านั้นถึงจะเขียนออกมาได้ (คือนึกภาพเอง เขียนเอง แล้วก็กำกับเองเสร็จสรรพ) เข้าใจว่าถ้าได้ดูหนังก็น่าจะชอบเหมือนกัน เราชอบ Winter Light น้อยสุด มันเล่าเรื่องด้วยโมโนลอคเป็นส่วนใหญ่ ถ้าเป็นหนัง น่าจะสั้นมากๆ ยกเว้นว่าเบิร์กแมนจะยืดเรื่องด้วยภาพป่าเขาลำเนาไพร หิมะอะไรก็ว่าไป นึกไม่ออกเหมือนกันว่าถ้าเป็นหนัง เราจะชอบไหม

ตอนนี้อยากดู Through a Glass Darkly มากๆ ถ้าได้ดูแล้วเห็นประเด็นดีๆ ว่ามันแตกต่าง หรือเหมือนกับบทอย่างไร อาจจะเก็บมาเล่าให้ฟังในภายหลัง

1 comment:

Anonymous said...

อ่าน The Magic Lantern ของเขาสิ
จะได้รู้เบื้องลึกเบื้องหลังด้วย

The Silence ฉบับหนังมันเย็นชาหลอนๆมาก
อยากรู้เหมือนกันว่า ถ้าอ่านเฉยๆมันได้ฟีลนั้นหรือเปล่า