I. Murdoch's "The Bell"


จากสิบหกเล่มที่เราอ่านมา The Bell เหมาะสุด สำหรับใครที่ไม่ยังเคยอ่านนิยายของเมอดอช จะลองหยิบมาเปิดๆ ดู เพราะมันทั้งสั้น สนุก เซ็กซี่ ชวนขบขัน และเต็มไปด้วยโมทีฟอันเป็นเอกลักษณ์ของนักเขียน เกย์ เวทมนต์ ศาสนา อัจฉริยะจอมวายร้าย ครอบครัวแตกแยก การผิดลูกผิดเมีย และน้ำ

ฉากของ The Bell คือคฤหาสถ์อิมเบอร์ ปลูกติดวัดนางชี ในชนบทของประเทศอังกฤษ ชุมนุมที่มาพักอาศัยในอิมเบอร์คือคนที่รู้สึกว่าตัวเองไม่เป็นส่วนหนึ่งของโลกภายนอก แต่ก็ยังไม่พร้อมกับการก้าวเท้าเข้าไปในวัดอย่างเต็มตัว (ตามกฎนิกาย ถ้าบวชแล้ว ต้องใช้ชีวิตอยู่หลังกำแพงวัดไปจนตาย) พวกเขาใช้ชีวิตก้ำกึ่งระหว่างบุคคลธรรมดา และนักบวช วิถีชีวิตของพวกเขาไม่เคยมีบัญญัติไว้ในคัมภีร์ใดๆ กฎระเบียบหลายอย่างจึงถูกคิดค้น และดัดแปลงตามสถานการณ์ ในฉากหนึ่ง เราเห็นความขัดแย้งของผู้นำชุมชนอันเนื่องมาจากการพยายามหาความเหมาะสมในกฎระเบียบที่ว่า

และแน่นอน ขาดไม่ได้เลยในนิยายของเมอดอช คือทะเลสาบยักษ์ใหญ่ติดคฤหาสน์ ซึ่งซุกซ่อนความลับบางอย่างเอาไว้

ตัวละครเด่นใน The Bell มีอยู่สามคนคือดอรา ผู้หญิงที่เข้ากับสิ่งแวดล้อมในอิมเบอร์ เหมือนน้ำเข้ากับน้ำมัน หล่อนแต่งงานกับพอล นักวิชาการขี้หึงผู้มาศึกษาตำราโบราณซึ่งถูกเก็บรักษาไว้ที่นี่ (แปลกที่เมอดอชไม่ได้พูดถึงรายละเอียดเรื่องตำราโบราณนี้ แถมพอลก็แทบไม่มีบทบาท ค่อนข้างผิดวิสัย อาจเป็นความแตกต่างระหว่างผลงานแต่ละยุคของเมอดอชก็ได้) ไมเคิล ผู้นำ และเจ้าของคฤหาสน์อิมเบอร์ เป็นรักร่วมเพศที่ปิดบังอดีต และความปรารถนาของตัวเอง และโทบี เด็กหนุ่มรูปงามผู้กำลังจะเผชิญหน้ากับความสับสนครั้งยิ่งใหญ่ของชีวิต

เมื่อเทียบกับเล่มอื่นแล้ว The Bell เข้าใจง่าย มี moral ชัดเจน ประเด็นซึ่งผู้เขียนต้องการบอกคือ "การกระทำความดี เพียงเพราะว่ามันเป็นความดี จะไม่มีความหมายใดเลย ถ้าการกระทำนั้นมันขัดกับธรรมชาติของเราเอง จะเกิดโทษมากกว่าคุณด้วยซ้ำ" ประเด็นตรงนี้ถูกนำเสนอ ผ่านเหตุการณ์ใหญ่น้อย เมอดอชยังเข้าเกียร์ต่อต้านศาสนาเต็มตัว เย้ยหยันตัวละครผู้มีศรัทธารุนแรง และปล่อยให้เหล่าเอเธียสได้หัวเราะทีหลัง

No comments: