R. Davies's "A Mixture of Frailties"


ยากจังแฮะ กับการถามตัวเองว่าชอบหรือเปล่า A Mixture of Frailties นิยายเล่มสุดท้ายในไตรภาคซัลเตอร์ตัน เราชอบสองเล่มก่อนหน้านี้มาก แต่กับ A Mixture of Frailties ส่วนหนึ่งก็ต้องยอมรับว่ามันใกล้เคียงกับความเป็นโรเบิร์ตสัน เดวีส์ที่หลายต่อหลายคนรู้จัก Fifth Business นิยายที่โด่งดังสุดของแก ก็คือเล่มถัดจากเล่มนี้ไป โดย A Mixture of Frailties มีหลายอย่างคล้ายคลึงกับนิยายในไตรภาคเดปฟอร์ดมากกว่า Tempest Tost หรือ Leaven of Malice มันมีความอึมครึม และบรรยากาศชวนสะพรึงบางอย่าง

A Mixture of Frailties ว่าด้วยโมนิกา หญิงสาวยากจนในเมืองซัลเตอร์ตัน ผู้วันดีคืนดีได้รับเงินทุนมหาศาลให้ไปศึกษาต่อวิชาขับร้องในประเทศอังกฤษ นิยายทั้งเล่มนี้คือการผจญภัย และเติบโตของเธอในดินแดนแปลกถิ่น จุดนี้เองที่ A Mixture of Frailties คล้ายคลึงกับนิยายในไตรภาคเดปฟอร์ด เมืองซัลเตอร์ตันเป็นพื้นหลังของตัวละครมากกว่าสถานที่เกิดเหตุการณ์ในเรื่อง รวมไปถึงความเป็นนิยายชีวประวัติของมัน ซึ่งแตกต่างจากเล่มอื่นๆ ในไตรภาคซัลเตอร์ตัน

ชื่อนิยาย “ส่วนผสมของข้อเสียหาย” น่าจะหมายถึงความเป็นศิลปินที่ต้องมีนิสัยเสียบางอย่างอยู่ในตัว สิ่งที่โมนิกาเรียนรู้ในลอนดอนไม่ใช่เพียงเทคนิกการใช้เสียง วัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ดนตรี แต่รวมไปถึงข้อเสียหาย และสิ่งเลวร้ายในตัวศิลปินผู้เป็นอาจารย์ และผู้คนที่ใช้ชีวิตอยู่รอบกายเธอ รวมไปถึงการยอมรับข้อเสียของตัวเองด้วย ขณะเดียวกัน “ส่วนผสมของข้อเสียหาย” ก็เป็นสิ่งที่เดวีส์ต้องการบอกคนอ่านว่า ในตัวมนุษย์เราทุกคนมีข้อเสีย บางครั้งก็ต้องแกล้งปิดตา มองข้ามข้อเสียหายเหล่านั้น เพื่อจะได้ใช้ชีวิตอย่างคุ้มค่า

เรายอมรับบทเรียนตรงนี้ได้นะ และนั่นก็เป็นบางอย่างที่สรุปได้จากนิยายสองเล่มก่อนหน้านั้น ผิดแต่ข้อเสียของตัวละครใน A Mixture of Frailties อาจเป็นบางอย่างที่เรารับไม่ได้ เรารับได้กับความหยิ่งยะโสของตัวละครใน Tempest Tost และ Leaven of Malice แต่เรารับไม่ได้กับความโง่งายงมของหลายตัวละครในเล่มนี้ รวมไปถึงตัวโมนิกาเองด้วย โมนิกามีพื้นหลังมาจากครอบครัวที่ยากจน และคลั่งศาสนา และสุดท้ายแม่ของเธอก็จบชีวิตเพราะความงมงายดังกล่าว นั่นคือสิ่งที่เราควรจะมองข้ามไปให้ได้อย่างนั้นหรือ

หลังจากอ่านนิยายของเดวีส์มาแล้วเจ็ดเล่ม ยากยิ่งนักที่จะบอกว่าเดวีส์เชื่อ หรือไม่เชื่ออะไรบ้างที่เขาเขียน A Mixture of Frailties พูดถึงปรัชญาศิลปะแบบต่างๆ บางข้อก็ขัดแย้งกันเอง ไม่นับว่ามันขัดแย้งกับเล่มอื่นๆ ที่เดวีส์เคยเขียนไว้ และจะเขียนต่อไปในอนาคตบ้างหรือเปล่า ตรงนี้กระมังที่ทำให้ A Mixture of Frailties เป็นนิยายที่สลับซับซ้อน และตัวโรเบิร์ตสัน เดวีส์ เป็นนักเขียนที่มีอะไรให้น่าค้นหาอยู่ตลอดเวลา

No comments: