G. Deleuze's "The Fold"

เสียดายที่หนังเรื่อง Meet Dave ไม่ได้ออกมาดีกว่านี้ (ยังไม่ได้ดูหรอกนะ แต่มาตรมะเขืออยู่ที่ประมาณ 20%) ทั้งที่จริงๆ เราว่าไอเดียมันช่าง fascinating ว่าด้วยมนุษย์ต่างดาวตัวเล็กๆ ที่มาศึกษามนุษย์โลก ผ่านยาวอวกาศที่สร้างออกมาเป็นรูปเอ็ดดี้ เมอฟี่ แฝงตัวปะปนอยู่กับมนุษย์โลก (เอ็ดดี้ เมอฟี่เองก็เล่นบทเป็นกัปตันยาวอวกาศลำนี้) แนวคิดประเภทมนุษย์ตัวเล็กๆ ที่อาศัยอยู่ในร่างกายเรา ที่จริงแพร่หลายมากในหมู่ชนเผ่าพื้นเมือง และอาจเป็นที่มาของปรัชญาทวินิยมของเดสการ์ต ซึ่งส่งอิทธิพลอย่างมากต่อศาสนาในปัจจุบัน (ว่าด้วยการแบ่งแยกระหว่างร่างกายและวิญญาณ)

เอาเข้าจริง เราว่ายานอวกาศมนุษย์แบบใน Meet Dave น่าจะคล้ายคลึงกับแนวคิดของลิบซ์นิซมากกว่า อย่างน้อยจากที่เดอลิซตีความลิบซ์นิซใน The Fold ลิบซ์นิซเห็นต่างจากเดสการ์ตตรงที่ว่า ยานอวกาศเอ็ดดี้ เมอฟี่ไม่ได้มีกัปตันคอยบังคับยาน สั่งการลูกเรือ และก็ไม่ใช่มนุษย์ต่างดาวที่บังคับยานด้วยซ้ำ แต่เป็นมนุษย์ทุกคนบนโลก นอกจากเดฟ ที่คอยควบคุมยานเดฟอยู่ภายในอีกที

ลิบซ์นิซ/เดอลิซเรียกมนุษย์ว่า Monad คล้ายๆ กับที่ไฮเดกเกอร์เรียกมนุษย์ว่า Dasein ถ้า Dasein หมายถึงการอยู่ดีๆ ก็พบตัวเองอยู่ในสถานที่หนึ่งๆ (Dasein แปลตรงตัวได้ประมาณ "being there") Monad ก็หมายถึงมนุษย์คือศูนย์รวมของบางสิ่งบางอย่าง ในที่นี้คือประสบการณ์ภายนอก ภาชนะที่เรียกว่ามนุษย์ เป็นเพียงจุดตัดกันของสิ่งอื่นๆ ที่อยู่นอกตัวเขา มนุษย์ต่างกันเพราะเส้นที่ลากจากทุกสิ่งทุก สามารถตัดกันในรูปแบบที่แตกต่างกันไป ปัจเจกชนเกิดจากเราไปทึกทักเอาเองว่า จุดตัดสมมติเหล่านี้เป็นของที่มีตัวตนจริงๆ เช่น วิญญาณ หรือจิตใจ (เฮเกลมากๆ พุธมากๆ เราชอบ)

อ่านดี อ่านสนุก แต่ก็สารภาพว่าช่วงนี้ไม่ค่อยอินกับปรัชญาทำนองนี้เท่าไหร่ ขอจบสั้นๆ แค่นี้แล้วกัน

No comments: