C. Buckley's "Little Green Men"


Little Green Men เป็น "หนังสือพักผ่อน" ที่ดีมากสำหรับเรา หลังจากอ่านอะไรหนักๆ มาพักใหญ่ นิยายเรื่องนี้ "ตลกโคตรๆ " จำไม่ได้แล้วว่า ครั้งสุดท้ายที่ขำขนาดนี้กับหนังสือสักเล่มหนึ่ง (โดยเฉพาะนิยาย) นี่มันเมื่อไหร่กัน บัคเลย์ ผู้เขียนเป็นเจ้าของนิยายอีกเล่มหนึ่งคือ Thank You for Smoking ซึ่งถูกแปลงเป็นภาพยนตร์ โดยผู้กำกับคนเดียวกับ Juno ขอแนะนำว่าเป็นหนังอีกเรื่องที่สมควรดูมากๆ

ไอเดียของ Little Green Men บรรเจิดใช้ได้ พูดถึงหน่วยงามลับหน่วยหนึ่งในรัฐบาล ชื่อว่า Majestic 12 ซึ่งประกอบไปด้วยสิบสองผู้ยิ่งใหญ่ ที่แรกสุดสมัยก่อตั้งช่วยสงครามเย็น มีหน้าทีึ่จัดฉากเหมือนกับว่ามนุษย์ต่างดาวติดต่อกับรัฐบาลอเมริกาอย่างลับๆ เพื่อให้พวกโซเวียตเข้าใจว่าอเมริกามาอาวุธ และเทคโนโลยีจากนอกโลก ภายหลังสงครามเย็น Majestic 12 ขยับขยายเป็นหน่วยงานซึ่งมีหน้าที่หลอกลวงประชาชนอเมริกันให้เชื่อว่ามนุษย์ต่างดาวมีจริง เพื่อที่ CIA กองทัพ และ NASA สามารถขอเงินทุนมาพัฒนาไอ้นู่นไอ้นี่ได้

แบนเนียน ตัวเอกของนิยาย มีอะไรหลายอย่างคล้ายๆ แอรอน เอคฮาร์ตใน Thank You for Smoking อยู่เหมือนกัน แบนเนียนเป็นเจ้าของรายการทอล์คโชว์ อารมณ์คล้ายๆ คุณสรยุทธนี่แหละ แต่แบนเนียนเป็นที่นิยมของคนดูขนาดว่าเจ้าตัวมีอำนาจต่อรองกับประธานาธิบดีอเมริกาเลย วันดีคืนดีแบนเนียนถูก Majestic 12 ลักพาตัวไปถึงสองครั้ง ผลก็คือแกเชื่อว่ามนุษย์ต่างดาวมีจริง รัฐบาลปกปิดอะไรบางอย่างเกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาว และกลายมาเป็นผู้นำของกลุ่มใต้ดินที่เคยถูกลักพาตัว หรือเชื่อในมนุษย์ต่างดาว

อ่านประวัติดู บัคเล่เป็นบรรณาธิการให้กับนิตยสาร Forbes แกคงเป็นคนลึก คนในอยู่หน่อยๆ เพราะไม่ว่าจะ Thank You for Smoking หรือ Little Green Men อ่านดูแล้วก็พอจับได้ว่าคนเขียนคงรู้เส้นสนกลในที่วอชิงตันไม่น้อย (หรือถ้าไม่ ก็ต้องทึ่งหนักขึ้นว่าแกเขียนได้น่าเชื่อถือมาก) น่าขบคิดว่าหนังสือหรือนิยายที่จับการเมืองมาเป็นหัวข้อเรื่องก็มีอยู่มากมาย แต่จะมีสักกี่เล่มที่พูดถึง "การเมืองอย่างแท้จริง" หมายถึงรัฐสภา ทำเนียบรัฐบาล หรือนักการเมืองอะไรแบบนี้

จะพูดว่า Little Green Men เป็นหนังสือฮาไปวันๆ ก็ไม่ผิดไม่ถูก บัคเล่พยายามเล่นกับประเด็นความโดดเดี่ยว ขาดที่พึ่งของพวกที่ศรัทธาในมนุษย์ต่างดาว โดยบอกว่าคนพวกนี้มองมนุษย์ต่างดาวว่าเป็นรูปแบบหนึ่งของพระเจ้า ถึงขนาดมีการอ้างยุง นักจิตวิทยาผู้โด่งดังด้วย (สรุปคือยุงเคยเขียนเกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาวจริงๆ หรือเปล่า เราก็ไม่รู้) แต่พอถึงตอนจบของนิยาย ประเด็นนี้เหมือนจะอ่อนๆ ลง สรุปอ่านจบแล้ว เราก็ยังไม่แน่ใจว่าบัคเล่ต้องการเห็นอกเห็นใจ หรือเสียดสีล้อเลียนคนพวกนี้กันแน่ แบนเนียนตัวเอกของนิยาย หลังจากกลายมาเป็น "จอห์น เลนนอน แห่ง UFO" เขาสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่าง ภรรยา เพื่องฝูง งานที่ทำเงินมหาศาล ซึ่งพักหนึ่งก็เหมือนเขาจะได้เห็นปรัชญาชีวิตหน่อยๆ ว่าจริงๆ แล้ว คนที่เคยชื่นชมเขา เคยอยู่รอบข้างเขา ก็ไม่ได้จริงใจ หรือชื่นชมเขาเท่ากับพวกบ้ามนุษย์ต่างดาวเหล่านี้ แต่ประเด็นนี้ก็ไม่ได้ถูกสานต่อไปไหนอีกเหมือนกัน

สรุปคืออ่านเล่นๆ เพลินๆ ฮาแตกน่ะดี แต่อย่าไปคิดอะไรมากกับนิยายเรื่องนี้เลยแล้วกัน

No comments: