A. Burgess's "The End of the World News"


สิบกว่าปีมาแล้ว ตอนที่ Armageddon เพิ่งออกฉายใหม่ๆ ยังไม่มีใครรู้จักชื่อไมเคิล เบย์ นักวิจารณ์หนังหลายคนพูดตรงกันว่า "ถ้าโลกเราจะต้องถูกช่วยเหลือด้วยคนอย่างบรูซ วิลลิสหรือเบน เอฟเฟค ปล่อยให้มันแตกไปเลยดีกว่า" กล่าวคือ ถ้ามนุษยชาติเป็นได้แค่พวกลิงกังที่ขึ้นยานอวกาศไปถล่มอุกกาบาต ก็ไม่สมควรแล้วที่จะมีมนุษยชาติสืบต่อไป

นักวิจารณ์เหล่านั้นไม่เคยอ่าน The End of the World News แน่ๆ ...ซึ่งก็ดีแล้วละสำหรับพวกเขา

เบอเกสส์ถกเถียงในทางตรงกันข้าม เขาพยายามบอกว่าลิงกังเหล่านี้ต่างหากที่ทำให้มนุษยชาติมีคุณค่า อุกกาบาตนามลิกซ์กำลังพุ่งมาชนโลก มีโปรเจคลับที่รวบรวมนักวิทยาศาสตร์ชั้นหัวกะทิมาไว้ด้วยกัน และส่งขึ้นยานอวกาศ พร้อมข้อมูลต่างๆ เพื่อสักวันหนึ่ง พวกเขาจะได้สืบทอดเผ่าพันธุ์มนุษย์ เบอเกสส์พยายามบอกว่า ถ้ามีแต่พวกหัวกะทิอย่างเดียว โลกนี้ก็จะปราศจากสีสัน ต้องมีคนเพี้ยนๆ บ้าๆ มาร่วมทีมด้วย

The End of the World News ถูกเขียนเมื่อสามสิบปีที่แล้ว ในสมัยนั้น นี่อาจเป็นความคิดใหม่เอี่ยมแกะกล่อง แต่ในปัจจุบัน หลังจากหนังอย่าง 2012 The Day After Tomorrow ออกมาชนโลก เหตุและผลของเบอเกสส์ดูจะกลายเป็นเรื่องน่าเย้ยหยันเสียมากกว่า (มันช่วยไม่ได้จริงๆ ที่เราอ่านนิยายเล่มนี้แล้วจะเห็นหน้าเบน เอฟเฟค จอห์น คูแซค โผล่ออกมาแทนที่ตัวเอก)

The End of the World News ตัดสลับเหตุการณ์วันสิ้นโลก กับชีวประวัติฟรอยด์ และละครเพลงเกี่ยวกับทรอตสกี้ แต่ละส่วนยั่วล้อกันอยู่อย่างน่าสนใจ แต่ในอีกแง่หนึ่ง มันกลับเพิ่มความหนาให้กับหนังสือที่ไร้สาระอยู่แต่แรกแล้ว

เบอเกสส์เป็นคนเขียนหนังสือสนุก คล้ายๆ "อาจารย์" ของเขาคือเจม จอยซ์ เบอเกสส์ใช้ภาษาอังกฤษได้อย่างเสมือนเป็นแขนขาตัวเอง (เราแทบจะร้องตามละครเพลงของทรอตสกี้ไปด้วยได้) แต่ความสนุกทางภาษาสักแค่ไหน ก็ไม่พอรับน้ำหนักความเหลวไหลไร้สาระนี้

แอบคิดเล่นๆ ว่าโลกจะเปลี่ยนแปลงไปสักแค่ไหน ถ้าในปีที่ Armageddon ออกฉาย หนังอุกกาบาตอีกเรื่องหนึ่ง Deep Impact ประสบความสำเร็จมากกว่า (อาจจะไม่ได้ดีนัก แต่อย่างน้อย Deep Impact ก็พยายามเล่นกับประเด็นวันสิ้นโลกอย่าง "เป็นผู้ใหญ่") ในวันนี้ เราอาจจะตื่นเต้นและอินไปกับ The End of the World News ก็ได้

1 comment:

ตอเรส said...

555+