ประเทศอินเดีย เมื่อ 2500 กว่าปีที่แล้ว เกิดความเปลี่ยนแปลงทางสังคมครั้งใหญ่สองประการ หนึ่งคือเทรนด์ในหมู่ราชาและเศรษฐีที่จะสร้างอุทยานถวายเหล่านักพรต ผู้ทรงศีล ให้มาเปิดสำนัก บำเพ็ญเพียร และถ่ายทอดวิชา เหล่านักพรตเมื่อมารวมตัวกันอยู่ในที่แคบๆ (คือแคบกว่าป่าเขาลำเนาไพร แต่เข้าใจว่าอุทยานเหล่านี้ ก็คงมีขนาดมโหฬารอยู่ดี) ก็มีโอกาสพบปะ สังสรรค์ วาทะ-วิวาทะ กันมากขึ้น บังเกิดเป็นความรู้ใหม่ๆ สองคือการขยายตัวของชนชั้นพ่อค้า ซึ่งเหล่าวาณิชนี่เอง มีส่วนสำคัญในการเผยแพร่ศาสนาเกิดใหม่อย่างพุทธศาสนาในขณะนั้น
ภาพของสังคมอินเดียที่ Obeyesekere (สุดจะอ่านชื่อพี่เขาจริงๆ ) วาดขึ้นมาคือสังคมที่เต็มไปด้วยวัฒนธรรมฮินดูอันหลากหลาย ศาสนาพราหมณ์แม้จะเป็นศาสนาที่เก่าแก่ที่สุดในโลก หากดูราวแต่ละท้องถิ่นขึ้นตรงต่อแต่ละสำนัก มากกว่าจะมีคำสอนเป็นอันหนึ่งอันเดียว (ซัลแมน รัชดี เคยเขียนขำๆ ว่า เทพเจ้าในศาสนาพราหมณ์มีมากกว่าประชากรอินเดียเสียอีก) ความหลากหลายเช่นนี้ยังความลำบากลำบนให้เหล่าพ่อค้า ผู้ต้องเดินทางไปตามท้องถิ่นต่างๆ ปรับตัวเข้ากับวัฒนธรรมอันหลากหลาย ด้วยเหตุนี้ ศาสนาที่เหล่าพ่อค้าต้องการคือศาสนาที่ประกาศความจริงสากล (universal truth) และคำสอนของพระพุทธเจ้าก็ตรงตามฉลากดังกล่าว
การสร้างความเป็นสากลให้กับพุทธศาสนา -- จากคำอธิบายของ Obeyesekere -- นั้นน่าสนใจมาก และเรียกได้ว่า กลับหัวกลับหางกับสิ่งที่เราเคยเข้าใจมาเลย เราเคยเข้าใจว่าศาสนาคือเครื่องมือโบราณในการสร้างศีลธรรม เพื่อควบคุมความประพฤติ ให้แต่ละสมาชิกในสังคมอยู่กันอย่างสงบสุข Obeyesekere แสดงให้เห็นว่า ในทางตรงกันข้าม ชนเผ่าโบราณไม่มีแนวคิดเรื่องศีลธรรมอยู่ในศาสนาเลย ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาไม่มีศีลธรรม แต่บทบัญญัติด้านความประพฤติถูกรวมอยู่ในกฏหมาย วิถีประชา และอื่นๆ ศาสนาจึงเป็นเรื่องของพิธีกรรมล้วนๆ
Obeyesekere บอกว่า ลัทธิต่างๆ ของศาสนาพราหมณ์ในยุคก่อนพุทธกาลมีคุณลักษณะดังกล่าว พระพุทธเจ้าเป็นคุรุท่านแรกที่นำเอาศีลธรรมเข้ามาผนวกกับความเชื่อเรื่องการหลุดพ้น (ซึ่งมีอยู่ในศาสนาพราหมณ์เหมือนกัน) กระบวนการนี้เรียกว่า ethicization พูดภาษาหรูๆ คือพุทธศาสนา เป็นศาสนาแรกในชมพูทวีปที่กอปรทั้งโลกียธรรมและโลกุตรธรรมนั่นเอง
ประเด็นที่กระทบใจเราเป็นพิเศษคือ ถ้าเชื่อตามที่ Obeyesekere บอก ก็หมายถึง by design แล้ว พุทธศาสนาคือศาสนาเพื่อสร้างความเป็นหนึ่งเดียว มากกว่าสนับสนุนความหลากหลาย เราจึงเห็นได้จากวาทกรรมที่ข้ามน้ำ ข้ามทะเล ข้ามกาลเวลา ติดมาจนทุกวันนี้ ไม่ว่าจะเป็น "ความจริงสูงสุด" "ความจริงหนึ่งเดียว" หรือ "ความจริงที่ไร้กาลเวลา" รวมไปถึงท่าทีทางจักรญาณวิทยาที่พยายาม "กลืนกิน" ความรู้แขนงอื่นๆ เข้ามา หรือไม่ก็ปฏิเสธมันเสีย (to be fair นี่อาจเป็นท่าทีสามัญของศาสนาใหญ่ๆ ทุกศาสนาในปัจจุบันก็ได้) ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจหากพุทธศาสนาจะถูกแปรเปลี่ยนเป็นเครื่องมือทางอำนาจ ไม่ผิดอะไรกับศาสนาคริสต์ หรืออิสลาม
ในที่นี้ ไม่ได้หมายความว่าเราสมควรต่อต้านพุทธศาสนา และไม่ได้หมายความว่าอะไรที่แสดงออกถึงลัทธิชาตินิยมจะมีแต่ข้อเสีย หากการตระหนักรู้ธรรมชาติตรงนี้ น่าจะดีกว่า ที่สำคัญคือถ้าเราตามตรรกะคำอธิบายของ Obeyesekere ดีๆ เราจะพบว่า "ความจริงสูงสุด" นั้นหาใช่โลกุตรธรรมเพียงอย่างเดียวไม่ (เพราะเป็นแนวคิดที่ดัดแปลง พัฒนามาจากศาสนาพราหมณ์) หากต้องรวมเอาโลกียธรรม หรือธรรมที่เกี่ยวข้องกับสภาพสังคมเข้าไปด้วยต่างหาก ดังนั้นถ้าสภาพสังคมเปลี่ยนแปลงไป เราจะยึดเหนี่ยวกับ "ความจริงที่ไร้กาลเวลา" นี้ได้สักแค่ไหนกัน
(หมายเหตุ: พยายามมองแบบละอคติว่าบางที "universal truth" ในสมัยพุทธกาล อาจถูกใช้ในความหมายที่ต่างจาก "ความจริงสูงสุด" ในสมัยนี้ กล่าวคือ พระพุทธเจ้าอาจต้องการแค่ rationalize หรือจัดระเบียบโครงสร้างของคำสอน ไม่ให้แตกออกมาเป็นลัทธิใหญ่น้อยแบบศาสนาฮินดู และเพราะเหตุนี้ด้วยหรือเปล่า เมื่อเปรียบเทียบกับศาสนาอื่นๆ ศาสนาพุทธเลยไม่ค่อยจะมีนิกายนัก
คุยกับอาจารย์คนหนึ่ง แกบอกว่าจริงๆ แล้ว ในช่วงห้าร้อยปีก่อนคริสตศักราช ไม่ว่านักคิดคนไหนๆ ก็ค้นหา universal truth ทั้งนั้น นอกจากพระพุทธเจ้า เพลโต อริสโตเติล หรือเล่าจื้อ "และอันที่จริงความจริงสากลก็ไม่ใช่เรื่องรวมศูนย์อำนาจหรือการไม่ยอมรับความหลากหลายเสียทีเดียว เช่นหลักสิทธิมนุษยชนก็อยู่บนพื้นฐานของความจริงสากลของความเป็นมนุษย์บางอย่าง เช่นเสรีภาพ ความเสมอภาค ปรัชญาการเมืองโดยเฉพาะทฤษฎีสัญญาประชาคมก็สร้างจากสมมติฐานที่ยอมรับความจริงสากลของมนุษย์ด้วยเช่นกัน")
1 comment:
Guests with a positive resort experience frequently return for forthcoming trips and are
a great deal more likely to make a referral to their family and friends.
ll also find that most high quality firms dealing with
interior design Las Vegas will ask for a retainer in
order to cover some of the initial costs.
They can undertake many tasks and this is a flexibility that is enjoyed by people in this profession.
My web-site: home interior decoration catalog
Post a Comment