G. Greene's "Doctor Fischer of Geneva"


คำจำกัดความที่ดีที่สุดของ Doctor Fischer of Geneva คือ "a sad little farce” ไม่รู้จะแปล farce เป็นไทยว่าไงดี ละครตลกคาเฟ่ ขำอย่างเดียวไม่มีสาระ เนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องบนเตียง เรื่องใต้สะดือ ตัวละครเปิ่นๆ แรงๆ โง่ๆ แต่พอเอาคำคำนี้มาขยายด้วยคุณศัพท์ "แสนเศร้า" ก็เกิดเป็น oxymoron แปลกๆ ขึ้นมา แค่เขียนนิยายแบบนี้ให้คนอ่านยอมรับได้นี่ก็ชาบูคนเขียนแล้ว

Doctor Fischer of Geneva เป็น farce แน่ๆ นิยายทั้งเล่มแขวนอยู่บนความเชื่อเดียวว่า "คนยิ่งรวยก็ยิ่งโลภ" และโลภเสียจนทำได้ทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นเรื่องน่าอับอายแค่ไหน ฟิชเชอร์เป็นโคตรมหาเศรษฐี งานอดิเรกของเขาคือจัดงานเลี้ยงเล็กๆ โดยชวนเพื่อนสนิทที่เป็นเศรษฐีน้อยๆ ห้าคนมาร่วมงานนี้ ลูกสาวของฟิชเชอร์ตั้งฉายาให้เพื่อนสนิทของพ่อว่าเหล่า "คางคก" ฟิชเชอร์กำหนดกติกาคือเหล่าคางคกจะต้องยอมทำตามทุกอย่างที่เขาสั่ง ห้ามขัดใจเจ้าบ้านเป็นอันขาด ถ้าทำได้สำเร็จ ก็จะได้ของขวัญเล็กๆ น้อยๆ เป็นสิ่งตอบแทนตอนท้ายงาน ทั้งหมดก็เพื่อตอบสนองความอยากรู้อยากเห็นของฟิชเชอร์เองว่า อะไรคือขีดขั้นต่ำความเป็นคนที่เศรษฐีเหล่านี้จะไต่ลงไปเพื่อให้ได้ของขวัญ เงื่อนไขที่แขกต้องทำ เช่น จับกุ้งมังกรเป็นๆ มาต้มกิน หรือกิน "โจ๊ก" ที่เย็นชืด (porridge คือข้าวต้มโอ้ต ซึ่งไม่ใช่โจ๊กแบบเมืองไทยเสียทีเดียว เข้าใจว่าเป็นอาหารที่ถ้ากินเย็นๆ แล้ว เอาเข้าปากไปคำเดียว อาจอ้วกออกมาได้ง่ายๆ )

ที่พิศวงคือ ของขวัญของฟิชเชอร์ เอาเข้าจริง ก็ไม่ได้เลิศเลอถึงขนาดว่าเศรษฐีเหล่านี้จะหาซื้อเองไม่ได้ แต่คนพวกนี้ "โลภ" เสียจน ยอมลดระดับศักดิ์ศรีเพื่อเงินทองเล็กๆ น้อยๆ เพราะ "คนยิ่งรวยก็ยิ่งโลภ" (เพื่อตัดกับตัวละครเหล่านี้ กรีนให้ตัวเอกของนิยายเป็นล่ามพิการจนๆ ทำงานอยู่ในโรงงานชอคโกแลต) ถามเราว่าจริงไหม ก็คงจริงในระดับหนึ่ง แต่ถึงขั้นที่กรีนนำเสนอเลยหรือเปล่า อันนั้นเราว่าก็เกินไป เพราะคนยิ่งรวย ก็ยิ่งมีศักดิ์ศรีค้ำคอ หนสองหนคงพอรับได้ แต่ถึงขนาดไปแล้วไปอีก ยอมทนให้ตัวเอกตกต่ำซ้ำซาก เราไม่ค่อยเชื่อแฮะ

แต่อย่างที่บอก นิยายเล่มนี้คือ "a sad little farce” ถ้าจะอ่านให้สนุก ก็ต้องยอมรับเงื่อนไขของกรีน ส่วน "แสนเศร้า" ไม่บอกแล้วกัน อุบไว้ให้อ่านเอง เอาเป็นว่านี่คือนิยายเล่มเล็กๆ ที่บีบคั้นจิตใจเราสุดเล่มหนึ่ง

กรีนเป็นนักเขียนที่มหัศจรรย์มากๆ ในแง่ความหลากหลาย เท่าที่อ่านมาห้าหกเล่ม สไตลเรื่องแกเปลี่ยนไปเรื่อยๆ พอๆ กับโลเคชั่น ถ้าไม่รู้ด้วยตัวเอง แต่มีคนบอกว่า Doctor Fischer of Geneva คือคนเขียนคนเดียวกับ The Power and the Glory (ฉากในเมกซิโก) หรือ The Comedians (ฉากเป็นเฮติ) ยังไงๆ เราก็ไม่เชื่อ

No comments: