D. Adam's "Last Chance to See"


"If you think education is expensive, try ignorance"/"ถ้าคุณคิดว่าการศึกษามันแพงนัก ก็ลองโง่ดูสิ"

นี่คือวาจาอมตะของเดริค บอค นักการศึกษาชาวอเมริกัน ผู้กำกับเคยปริ๊นเอามาติดไว้หน้าโต๊ะทำงาน เราเองก็ชอบมากๆ เหมือนกัน ที่ยกมาไว้ตรงนี้เพราะคิดว่ามันสรุปหัวใจของหนังสือ Last Chance to See ได้ดียิ่งนัก นี่คือรวมบทความกึ่งสารคดีท่องเที่ยวของดักลาส อดัม ผู้โด่งดังจากนิยายชุด The Hitchhiker's Guide to the Galaxy ใน Last Chance to See อดัมและมาร์ค คาวาดีน นักสัตววิทยาออกเดินทางไปทั่วโลกเพื่อเก็บข้อมูลของสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ ณ สถานที่ต่างๆ

มือระดับอดัมเขียนหนังสือนี่ เรื่องขำน่ะขำแน่ๆ นอกจากนี้ Last Chance to See ยังนำเสนออีกหลายประเด็นที่ลึกซึ้งมากๆ เฉกเช่นในคำพูดของเดริค บอค บางครั้งสิ่งที่เรารู้สึกเหมือนมันไม่มีคุณค่า ไม่มีราคาอะไร เช่นการศึกษาหรือการอนุรักษ์สัตว์ใกล้สูญพันธุ์ ถ้าเรามองข้ามสิ่งเหล่านี้ ราคาที่ต้องจ่ายอาจจะแพงเสียยิ่งกว่า ในตอนจบของหนังสือ อดัมยกนิทานปรัมปรามาเรื่องหนึ่ง ดีมากๆ ดีโคตรๆ อ่านแล้วทั้งน้ำตาซึม ทั้งหัวเราะไม่ออก อยากจะแปลมาไว้ตรงนี้ แต่กลัวเสียของ

จะว่าไปนี่คืออาการปรกติของเราในการอ่านหนังสือเล่มนี้ ทั้งขันก็ขัน ทั้งเศร้าก็เศร้า อย่างตอนที่อดัมพูดถึงคาคาโป นกแก้วยักษ์ที่บินไม่ได้ (รูปแปะข้างบน) อดัมอธิบายว่าสัตว์ประเภทนี้โชคร้ายเพราะมันไม่มีภาษาใช้สื่อสาร เมื่อคาคาโปตัวหนึ่งเผชิญหน้ากับสัตว์ล่าเหยื่อที่มาจากภายนอกระบบนิเวศ แม้มันจะหนีรอดมาได้ แต่ก็ไม่สามารถไปบอกกล่าวเล่าเตือนเพื่อนฝูง อดัมให้เราลองจินตนาการดูว่าถ้าคาคาโปเป็นมนุษย์ มันจะบอกเพื่อนๆ ของมันอย่างไร หลังจากหนีรอดจากการถูกแมวตะครุบ

แต่ขณะเดียวกัน อดัมสรุป มนุษย์ซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิตชนิดเดียวที่มีภาษา ก็โคตรจะไร้ซึ่งความสามารถในการเรียนรู้ข้อผิดพลาดระหว่างกันและกันเลย

อดัมเป็นคนที่ละเอียดลออกับความซับซ้อนของโลก เขาตระหนักดีว่าการที่ตัวเองเข้าไปสอดส่าย ไปยุ่งเกี่ยวกับนักอนุรักษ์นี่มันเป็นการดึงเวลาอันมีค่าจากพวกเขาเหล่านี้แค่ไหน แต่อีกทางหนึ่ง ในฐานะผู้สื่อข่าวของสถานีโทรทัศน์บีบีซี การค้นคว้าและนำเสนอหนังสือเล่มนี้จะมีคุณค่าแก่สัตว์ใกล้สูญพันธุ์ในระยะยาวยิ่งกว่า เฉกเช่นเดียวกับการท่องเที่ยว ถ้าจะมองว่ามันคืออีกรูปแบบหนึ่งของลัทธิล่าอาณานิคมก็มองได้ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า สาเหตุเดียวที่สัตว์ใกล้สูญพันธุ์อย่างแรดยังมีชีวิตอยู่ได้ก็เพราะ “ในขณะนี้ แรดเป็นๆ มีราคามากกว่าแรดที่ตายแล้ว”

บทจะฮา Last Chance to See ก็ฮาได้ระเบิดระเบ้อ อย่างตอนที่อดัมและคาวาดีนพยายามหาซื้ออุปกรณ์สำรองในการอัดเสียงใต้แม่น้ำแยงซี หรือตอนที่เขาเล่าถึงนักศึกษาชาวเยอรมันที่เข้าป่าไปดูกอริลลาด้วยกัน ขนาดคนเส้นลึกอย่างเรา อ่านแล้วยังต้องกลั้นหัวเราะแทบแย่ (เพราะอ่านในร้านหนังสือ จะหัวเราะออกมาก็เกรงใจคนรอบข้าง)

พูดก็พูดเถอะ เป็นความผิดพลาดของเราจริงๆ ที่เลือกหยิบหนังสือเล่มนี้ขึ้นมาอ่าน เพราะช่วงนี้อยู่ระหว่างการเดินทางเลยอยากประหยัดเงินและประหยัดพื้นที่ แทนที่จะซื้อหนังสือมาเก็บไว้ ก็เลยว่าจะอ่านในร้านให้มันเสร็จๆ ไป แต่พออ่าน Last Chance to See จบ นั่งคิดอยู่นานเลย เพราะกับหนังสือดีๆ แบบนี้ ไม่ซื้อเก็บไว้ไม่ได้จริงๆ เอาไงดีหว่า

แต่ก็นะ ถ้าคิดว่าการศึกษามันแพงนัก ก็ลองโง่ดู…

1 comment:

Boat said...

คือจะบอกว่า ตอนนี้เราซื้อหนังสือเป็นบ้าเป็นหลังอ่ะ
มีเงินเท่าไหร่ ก็ทุ่มไปกันหนังสือที่จะขนกลับเมืองไทยในอนาคต

อนาคต...
เราอาจจะตายก่อนที่จะได้อ่านหนังสือพวกนี้ก็ได้
แต่ก็เอาเหอะ