เฮือด (r.o.d.)


ไม่ง่ายเลยกับการวิจารณ์ เฮือด ถามว่ามันดีไหม แน่นอนละว่ามันดี และอาจเป็นเรื่องสั้นดีที่ดีที่สุดเรื่องหนึ่งเท่าที่เคยมีคนส่งมาร่วมโครงการณ์ r.o.d. เลยก็ได้ แต่ขณะเดียวกัน ถามว่ามันมีจุดไหนให้แก้ไขไหม เราก็รู้สึกว่ามันมีอยู่ไม่น้อย เหมือนจะเป็นด้วยว่าจุดเด่นสุดของ เฮือด ก็คือจุดด้อยสุดของมันเช่นกัน

เฮือด เล่าเรื่องด้วยน้ำเสียงและภาษาท้องถิ่น โดยผู้เล่าเรื่องเป็นครู เล่าไปก็มีกรอกเหล้าเมามายเป็นระยะ บางทีก็สลับเอาคนอื่นหรือตัวละครในเรื่องที่เขาเล่ามาพูดคุยกับคนอ่าน อ่านไปก็ได้อารมณ์เหมือนนั่งอยู่ในร้านเหล้า ฟังขี้เมาหลายๆ คนพลัดกันเล่าเรื่อง ส่วนเรื่องที่พวกเขาเล่าว่าด้วยยิ้ม มหาเศรษฐีท้องถิ่น และการเผชิญหน้าของเขากับคู่ปรับคู่แค้นสองรายคือเฮือดแม่ไก่และข้าว แอบสงสัยว่ายิ้มคือสัญลักษณ์ของ “อะไร” หรือ “ใคร” หรือเปล่า แต่ทิ้งไว้ให้คนอ่านสงสัยแบบนี้แหละดีมากแล้ว

อย่างที่บอกว่าจุดเด่นสุดของเรื่องสั้นนี้ก็คือจุดด้อยสุดของมันด้วย ความสะเปะสะปะของการเล่าที่กว่าจะเข้าเรื่องได้ก็ปาเข้าไปสามสี่หน้า จริงๆ แล้วเราชอบตรงนี้นะ น้ำเสียงที่ทำให้ผู้ "อ่าน" กลายเป็นผู้ "ฟัง" และการใช้ภาษาพูดแทนที่ภาษาเขียนถือเป็นเสน่ห์ของ เฮือด ที่อยากแนะนำคือทันทีที่เข้าเรื่องแล้ว ความสะเปะสะปะควรลดน้อยลงกว่านี้ไหม ถ้าลำดับเหตุการณ์เสียใหม่น่าจะช่วยให้ความขัดแย้งในเรื่องสั้นนี้ชัดเจนขึ้น คนเขียนเกริ่นเรื่องเฮือดแม่ไก่ไว้ในตอนต้น ก่อนจะวกมาเรื่องข้าว และกลับไปหาเฮือดอีกทีในตอนท้าย เทคนิกการเล่าแบบนี้น่าจะเหมาะกับนิยายหรือเรื่องที่มีขนาดยาวมากกว่า

เราชอบปมความขัดแย้งระหว่างยิ้มและข้าวมากๆ เป็นนิทานชวนฝันที่หยอกล้อและเสียดสีพฤติกรรมมนุษย์อย่างคมคาย (ไม่นับว่ามันอาจมีแง่มุมหรือสัญลักษณ์ทางการเมืองแฝงนัยอยู่ด้วย) นี่คือตัวอย่างของเรื่องสั้นไทยสัจนิยมมายา (magical realism) ที่ชัดเจนและดีที่สุดเรื่องหนึ่ง แต่ในทางกลับกัน มันเลยข่มปมเฮือดแม่ไก่ให้อ่อนลง (ทั้งที่เป็นชื่อเรื่องแท้ๆ ) รวมไปถึงความเปลี่ยนแปลงของยิ้ม จากเศรษฐีอิ่มบุญกลายมาเป็นคนบ้าคลั่งก็ยังไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยอยู่ เหล่าเพื่อนทหารของยิ้มก็ดูจะเป็นตัวละครเกินๆ เคอะเขินอย่างไรมิทราบ

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ถ้าเรื่องนี้ขาดความสะเปะสะปะ อ่านแล้วจะได้อารมณ์คึกคักแบบนี้หรือเปล่า ผู้เขียนคงต้องไปชั่งน้ำหนักข้อดีข้อเสียเอาเอง

No comments: